ปลูกมะนาวแป้นพิจิตร พลิกชีวิตทำมาหากิน จากก้อนดินสู่เส้นทางเศรษฐี
มะนาวแป้นพิจิตร มะนาวแท้ติดลูกดกง่าย สายพันธุ์ดี การันตีด้วยรางวัลชมเชยอันดับที่ 4 จากการประกวดของดีงานเกษตรและกาชาดประจำจังหวัดอ่างทอง ในปี พ.ศ.2556 ทำให้ มะนาวแป้นพิจิตรมีชื่อเสียงอันโด่งดัง จนเป็นที่รู้จักกันเป็นจำนวนมาก จากกรรมวิธีการปลูกที่ขึ้นไม่ยาก สามารถเลี้ยงขยายเพาะพันธุ์และดูแลรักษาง่าย คุณภาพของต้นทนทานต่อสภาพดินฟ้าอากาศ มะนาวแป้นพิจิตรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตและออกลูกดกตลอดทั้งปี จึงส่งผลให้มะนาวสายพันธุ์นี้ คือ พืชทางเศรษฐกิจที่สามารถสร้างรายได้ สู่เส้นทางทำมาหากินของเกษตรกร สร้างชีวิตที่ร่ำรวยมั่งคั่งและยั่งยืนได้
ประโยชน์ของ ”มะนาวแป้นพิจิตร” ลิ้มลองแล้วจะติดใจ
มนต์เสน่ห์ของ “มะนาวแป้นพิจิตร” ให้ปริมาณน้ำที่เยอะมาก รสชาติเปรี้ยวจืดจาดจัดจ้านถึงใจ ตามสไตล์แบบมะนาวพันธุ์แท้ รสชาติน้ำมะนาวที่ได้ไม่มีรสขมแบบผลมะนาวขาดน้ำ เปลือกมีลักษณะบาง ผลมีขนาดใหญ่ มะนาวสายพันธุ์นี้มีเม็ดน้อย เม็ดมีขนาดเล็ก และมีกลิ่นหอมๆเฉพาะตัวตามระดับความเปรี้ยวของผลมะนาวจริงๆ ผิวภายนอกของลูกมะนาวสวย สีสันเขียวเหลืองตามอายุการเก็บเกี่ยว มะนาวมีผิวพรรณสัมผัสที่ดี ไม่ขรุขระ
วิธีการปลูกมะนาวแป้นพิจิตร
- การเพาะเมล็ด
ขั้นตอนการเตรียม
- การนำเม็ดมะนาวมาล้างให้สะอาด
- ผึ่งให้แห้ง จากนั้นนำไปตากแดด ให้เม็ดแห้ง
- นำมาแช่น้ำสะอาด อุณหภูมิห้อง ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 คืน
- แล้วเอาเม็ดมะนาวที่ได้มาเพาะในสำลีหรือกระดาษเช็ดชู่ที่เปียกน้ำหมาด หากล่องสีดำปิดคลุมให้สนิท ป้องกันอากาศเข้าและออกภายใน
ขั้นตอนการเพาะปลูกและเตรียมดิน
- จากนั้นประมาณ 1 สัปดาห์ (รอต้นอ่อนงอก) จึงนำเพาะปลูกลงดินในกระถาง ใช้ดินร่วน ผสมดินเหนียว และใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยไส้เดือนดิน ในปริมาณอัตราส่วน 2:2:1 และใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตราส่วน 1 ช้อนชา หาแกลบมะพร้าวแห้งๆ มากลบบริเวณโคนต้นอ่อนของมะนาว
- นำต้นอ่อนของมะนาวแป้นพิจิตร มาตั้งในสถานที่ที่แดดไม่แรง แสงแดดส่องแสงไม่จัดมาก
- รดน้ำต้นอ่อนมะนาววันละ1-2 ครั้ง
- มะนาวแป้นพิจิตรอายุครบ 1ปีครึ่ง – 2 ปี จะเริ่มออกดอกและให้ผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งต้นมะนาวจะออกลูกดกมากๆ ตามฤดูกาล
- การปักชำ
ขั้นตอนการเตรียม
- เตรียมกิ่งพันธุ์มะนาวแป้นพิจิตรที่ได้จากการชำกิ่งมาแล้ว
- ขุดหลุมรอขนาด 15 – 20 เซนติเมตร
ขั้นตอนการเพาะปลูกและเตรียมดิน
- ใช้ดินร่วน ดินเหนียว และปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยไส้เดือนดิน จำนวนอัตราส่วน 2:2:2
- ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 จำนวน 2 ช้อนชา
- รดน้ำเช้าและเย็นทุกวัน
- ระยะเวลาประมาณ 1 ปีเศษ ต้นมะนาวแป้นพิจิตรจึงออกผลผลิตให้ได้เก็บผลกัน
การออกลูกของมะนาวแป้นพิจิตร
มะนาวมีดอก : ระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายน ของทุกปี
มะนาวออกลูก : สามารถเก็บผลผลิตได้ ตั้งแต่ช่วงระหว่าง เดือนพฤษภาคม – ตุลาคม ของทุกปี มะนาวในช่วงเดือนนี้จึงมีราคาไม่แพงมากนัก
การทำให้มะนาวออกผลผลิตนอกฤดูกาล
มีขั้นตอนและวิธีการดำเนินการเร่งให้เกิดผลผลิตของมะนาวแป้นพิจิตรในช่วงระหว่างเดือน พฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี ในช่วงระหว่างเดือนนี้ มะนาวแทบทุกสายพันธุ์ในตลาดจะมีราคาค่อนข้างสูงกว่าในยามปกติทั่วไป เนื่องจากเป็นช่วงที่แม่ค้าและพ่อค้า นิยมเรียกกันว่า “มะนาวขาดตลาด” นั้นเอง ดังนั้นจึงมีกลวิธีการและขั้นตอนทำให้มะนาวแป้นพิจิตรมีผลผลิตได้
- ยกเว้นการรดน้ำต้นมะนาวประมาณ 7 – 12 วัน ให้สังเกตปฏิกิริยาของต้นมะนาว หากมีอาการแห้ง ใบเหยี่ยวเฉาเปลี่ยนเริ่มกลายเป็นสีเทาๆเหลืองๆ จนถึงมีการหลุดร่วงของใบมะนาว
- ตัดแต่งกิ่งของต้นมะนาวแป้นพิจิตร เลือกต้นที่มีลักษณะของกิ่งที่มีใบแก่
- ผสมปุ๋ยสูตร 12-12-24 และน้ำสะอาดเข้าด้วยกัน และนำมาใส่โรยที่บริเวณโคนต้นมะนาว ราวๆ 2-3 ช้อนพรวนดิน
- นำเศษใบไม้ ขี้เถา แกลบ ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยไส้เดือนดิน มาโรยบริเวณข้างๆคลุมพื้นดินรอบๆต้นมะนาว เพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับต้นมะนาวและปรับสภาพดินให้มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
- ประมาณ 20 – 30 วัน ต้นมะนาวแป้นพิจิตรจะมีลักษณะแตกดอก และแตกใบใหม่ ในช่วงระหว่างนี้ให้ระมัดระวังแมลง หนอน และสัตว์กัดกินใบอ่อนของต้นมะนาว อย่างไรก็ตามป้องกันด้วยวิธีใช้สมุนไพรประเภทน้ำหมักสำหรับฉีดพ่นกำจัดแมลง ประมาณ2-3 วันฆ่าเชื้อ/ครั้ง
- ในช่วงระหว่างนี้ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่และสังเกตอาการของต้นมะนาวให้มากซักหน่อย เนื่องจากสัตว์และแมลงบางชนิดที่ชอบกัดกินใบอ่อนของต้นมะนาว สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของต้นและอาจส่งผลทำให้ต้นมะนาวตายได้ลงในที่สุด
- รดน้ำต้นมะนาวทุกวันในเวลาเช้าและเวลาเย็นตามปกติ กระทำเช่นนี้จนถึงช่วงวันที่สามารถเก็บเกี่ยวผลมะนาวได้
การปลูก ”มะนาวแป้นพิจิตร” พืชทางเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นผักสวนครัวที่ต้องใช้นำมาประกอบอาหารและสามารถแปรรูปเป็นส่วนผสมของอาหารได้สารพัดรูปแบบ ดังนั้น หากมีพื้นที่จำกัด ลองจัดแปลงผักสวนเล็กๆ ไว้สำหรับเพาะปลูกพืชผักสวนครัวแบบปลอดสารพิษ และให้มะนาวแป้นพิจิตรได้เป็นหนึ่งในใจที่คิดถึง เริ่มต้นจากการนำมาปลูกไว้รับประทานเองภายในครัวเรือนเหมือนเดิม หรือจะเพิ่มเติมแบบปลูกเพื่อการค้าขายและขยายสร้างเกิดเป็นรายได้หลักของครอบครัว ตลอดจนสามารถต่อยอดสร้างสู่อาชีพที่มั่นคงบนเส้นทางทำกินและกลายเป็นเศรษฐีได้อย่างแน่นอน