ขายต้นกล้ามะหลอด ราคาไม่แพง ผลไม้พื้นบ้าน

ขายต้นกล้ามะหลอด ราคาไม่แพง ผลไม้พื้นบ้าน สีสัน สดใส น่าทาน

สวนของเรา ขายต้นกล้ามะหลอด ราคาไม่แพง ผลไม้พื้นบ้าน รสเปรี้ยวน่าทาน มะหลอดเป็นผลไม้พื้นบ้าน สีสันสดใส น่าทาน ถ้าใครนิยิมชอบทานผลไม้ยามว่างที่มีรสเปรี้ยว รสเปรี้ยวอมหวาน รสหวาน ทางเราแนะนำ มะหลอด ให้ได้ลองชิมกัน ไม่ว่าทานกับน้ำจิ้ม พริกเกลือ หรือน้ำพริกปลาร้า (สำหรับท่านที่ทานปลาร้า) หรือ น้ำพริกต่างๆ ที่ลูกค้าชอบ รับรอง รสชาติของมะหลอดกับน้ำจิ้ม จี๊ดจ๊าด อร่อยเด็ด อย่างแน่นอนครับ และเจ้ามะหลอดไม่ได้ออกผลให้เราทานได้ตลอดทั้งปีนะคะ มะหลอดจะออกผล ปีละครั้ง ออกผลราวๆ ปลายปี ช่วง เดือนพฤศจิกายน-กุมภาพันธุ์ 

แต่สำหรับท่านใดทีต้องการนำมะหลอดไปปลูก ที่สวนของเราขายต้นกล้ามะหลอด ราคาไม่แพง ให้ท่านได้นำไปปลูกกันค่ะ

ที่สวนของเราขายต้นกล้ามะหลอด 3 รสชาติ

  • มะหลอดรสเปรี้ยว 
  • มะหลอดรสเปรี้ยวอมหวาน
  • มะหลอดรสหวาน

ขายต้นมะหลอด ราคาไม่แพง ผลไม้พื้นบ้าน ปลูกง่าย โตเร็ว

ตอนนี้ที่สวนของเรา ขายต้นกล้ามะหลอด ราคาไม่แพง ซึ่งมีทั้ง 3 สายพันธุ์ 3 รสชาติ ให้ทานที่สนใจได้นำไปปลูกกัน แต่ท่านไหนที่ไม่ทราบหรือไม่แน่ใจว่า มะหลอดมีลักษณธอย่างไร และปลูกได้ที่ไหนบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลมาแนะนำกัน ดังนี้

มะหลอด เป็นผลไม้ป่า เป็นผลไม้พื้นบ้าน ซึ่งถือกำเนิดในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง และภาคใต้ สามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของประเทศฯไทย ลักษณะเนื้อไม้เป็นไม้เนื้อแข็งเป็นไม้เลื้อย เปลือกสีน้ำตาล ใบจะมีสีเขียวจะมีจุดด่างเล็กๆ ตามหน้าใบและท้องใบ ส่วนท้องใบจะเป็นสีเงิน ลักษณะดอกจะเป็นทรงกรวย สีเขียวอ่อนหรือมีสีเขียวอมขาว ส่วนผลจะมีลักษณะทรงรี ช่วงยังเล็กจะมีสีเขียว พอเริ่มสุกจะเป็นสีส้ม ส้มอมแดง สุกจัดจะเป็นสีแดงซ้ำ ส่วนสูงเท่าที่เคยสังเกตขึ้นอยู่กับต้นไม้พี่เลี้ยงว่าต้นขนาดใหญ่ขนาดไหน ถ้าเป็นต้นมะม่วงก็ยอดมะม่วง เป็นต้น

  อนุกรมวิธาน

  • วงศ์ (family): Elaeagnaceae
  • สกุล (genus): Elaeagnus
  • ชนิด (species): latifolia
  • ชื่อวิทยาศาสตร์: Elaeagnus latifolia Linn.
  • ชื่อสามัญ: Bastard Oleaster
  • ชื่อท้องถิ่น :

ชื่อเรียกมะหลอดแต่ละภาค

ภาคกลาง และทั่วไป

  • – มะหลอด

ภาคเหนือ

  • สลอดเถา
  • บะหลอด

ภาคอีสาน

  • หมากหลอด

ภาคใต้

  • ส้มหลอด

ถิ่นกำเนิด และการแพร่กระจาย [3] อ้างถึงในเอกสารหลายฉบับ

พืชในสกุล elaeagnus พบแพร่กระจายในประเทศ และหมู่เกาะเขตร้อน ทั้งในแถบมหาสมุทรแปซิฟิก เอเชีย และ ยุโรป โดยพืชในสกุลนี้มีหลายชนิดที่ใช้รับประทาน และมีการปลูกเพื่อใช้ประโยชน์ทั้งการบริโภค และเพื่อการค้า อาทิ E. umbellata , E. angustifolia, E. multiflora เป็นต้น

ในประเทศไทยพบพืชในสกุล elaeagnus ชนิด latifolia หรือ ที่เรียกว่า มะหลอด อยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ E. latifolia var. argentea kuntze (holotype) แ ล ะ E. latifolia var. ferruginea kuntze (type)

โดยพบมาก และถือเป็นผลไม้ท้องถิ่นในภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ พบได้ในป่าดิบชื้นหรือป่าเบญจพรรณ โดยพบได้ในพื้นที่ที่ระดับ 200-1600 เมตร เหนือจากน้ำทะเล

ขายต้นมะหลอด  ราคาไม่แพง ผลไม้พื้นบ้าน ของคนชอบทานรสเปรี้ยว 

ชอบทานรสไหนกันบ้างคะ

ต้นมะหลอด มีสายพันธุ์อะไรบ้าง

สวนของเรา ขายต้นกล้ามะหลอด ผลไม้พื้นบ้าน ราคาไม่แพง มี 3 สายพันธุ์ ซึ่งแต่ละสายพันธุ์มีรสชาติแตกต่างกัน ดังนี้

  • มะหลอดเปรี้ยว เป็นมะหลอดที่มีรสชาติเปรี้ยวจี๊ด เหมาะสำหรับท่านที่ชอบรสเปรี้ยวจัด
  • มะหลอดเปรี้ยวอมหวาน เป็นมะหลอดที่ไม่เปรี้ยวจี๊ดสามารถกินแบบไม่ใส่น้ำจิ้มได้เลย แต่ถ้ากินกับน้ำพริกจะอร่อยมากกว่า
  • มะหลอดหวาน เป็นมะหลอดที่ออกรสชาติหวาน จะมีฝาดปนนิดหน่อย แต่ช่วงที่ยังไม่สุกมากก็จะมีรสเปรี้ยว แต่ถ้าสุกจัดหรือสุกงอมจะมีรสหวาน 

วิธีการขยายพันธุ์ต้นมะหลอด 

  1. วิธีเพาะเมล็ด เป็นการเพราะแบบดั้งเดิมที่ทำกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ

วิธีเพาะ นำเมล็ดที่เราต้องการที่จะปลูก คัดเมล็ดที่สมบูรณ์ จะปลูกทั้งเปลือกก็ได้

  • การปลูกทั้งเปลือกจะใช้เวลาในการงอกนานหน่อย ประมาณ 2-3 สัปดาห์
  • ถ้าอยากให้งอกเร็วทำอย่างไร ทางเราแนะนำให้แกะเอาเปลือกที่หุ้มเมล็ดออก ให้เหลือแต่เมล็ดเนื้อใน แช่น้ำ 1 คืน หลังจากนั้นก็ลงถุงเพราะชำ เก็บในที่ร่ม หรือร่มรำไรก็ได้ วิธีนี้ใช้เวลางอกประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพราะเป็นไม้ที่ไม่ค่อยชอบแดดมากเกินไป
  • พองอกเสร็จแล้วให้เลี้ยงต่อประมาณ 5-6 เดือน ก็สามารถลงปลูกหรือจำหน่ายได้เลย
  1. วิธีเพราะแบบปักชำ นำกิ่งที่สมบูรณ์ มาตัด ความยาวประมาณ 20 ซม. ถ้ามีน้ำยาเร่งรากก็สามารถแช่ได้เลยสัก 10-20 นาที ผึ่งลมปล่อยให้หมาดๆ และนำไปปักชำได้ปกติ วิธีนี้จะใช้เวลาในการชำนาน 5-6 เดือน ถึงจะนำไปปลูกได้

     3.วิธีเพราะแบบตอนกิ่ง เป็นวิธีที่ใช้ในการขยายพันธุ์มานาน เราเลือกกิ่งที่สมบูรณ์ เฉือนให้รอบทั้ง 2 ข้าง แล้วแกะเปลือกออก ขูดเนื้อเยื่อออก ใช้ขุยมะพร้าวผสมน้ำพอหมาด บรรจุใส่ถุง แล้วนำไปโอบตรงส่วนบริเวณที่จะตอนกิ่งได้เลย ใช้เวลา 2 เดือน ก็สามารถตัดนำมาชำในถุงเพราะได้เลย รอให้รากเดินดี แข็งแรงก็นำไปปลูกในดินได้เลย

ใช้เวลาปลูกนานไหมกว่าจะได้เก็บลูก

1.วิธีเพราะเมล็ด ใช้เวลาปลูก 2-3 ปี ติดลูก (ข้อดีมีรากแก้ว ทำให้ต้นยึดแน่น ไม่โค่นง่าย) ถ้ารากลงลึกจะเจริญเติบโตเร็วมากๆ

2.วิธีปักชำ ใช้เวลา 2-3 ปี ติดลูก สามารถเก็บผลผลิตได้

3.วิธีตอนกิ่ง ใช้เวลา 1-3 ปี ติดลูก สามารถเก็บผลผลิตได้

วิธีปลูกและดูแลรักษาต้นมะหลอด

     1.วิธีเตรียมปลูก ขุดหลุมที่เราต้องการที่จะปลูก ขุดให้เป็นเนินหลังเต่า กว้า 1 เมตร X 1 เมตร สผมปุ๋ยคอกด้วยก็จะดีมากๆ ถ้ามีไม้พี่เลี้ยงก็ปลูกตรงโคนต้นได้เลย ถ้าไม่มีไม้พี่เลี้ยงกลางแดดให้ใช้สแลนกันแดด 100% ไปเลย หรือหาไม่ได้ก็เอาไม้ทำเป็นที่บังแดดก็ได้ ข้างบนอาจจะใช้ใบมะพร้าว ใบจาก ใบตาล ก็ได้ จะได้ประหยัดต้นทุน

    2.หลังปลูกเสร็จแล้ว ให้นำเศษหญ้า ใบไม้ เศษฟาง คลุมโคนต้นเอาไว้เพื่อให้มีความชื้น จะได้ไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ

    3.รดน้ำ ช่วงแรกๆเราต้องรดน้ำสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น หรือไม่มีเวลาจริงๆวันล่ะครึ่ง หรือ 2 วัน ครั้งก็ได้ หรือช่วงหน้าฝนก็แทบจะไม่ได้รดน้ำเลย 

    4.ใส่ปุ๋ย ใส่เดือนล่ะ 1- 2 ครั้งก็ได้ ใช้ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยเคมีก็ได้ ใส่สลับกันไป จนถึงตอนโต ได้เก็บผลผลิตได้เลย

    5.ตัดแต่ง หรือดัดรูปทรง ต้นโตมาแล้วตัดแต่งกิ่งได้ไหม ทางเราแนะนำสามารถตัดได้ ทำเป็นค้างได้เลย อาจจะใช้เหล็กหรือไม้ที่มีความแข็งแรงจะได้มีอายุการใช้งานนานยิ่งขึ้น จะตัด หรือจะดัดตามรูปทรงที่เราต้องการได้เลย เพื่อไม่ให้ต้นสูงจนเกินไป ให้สามารถเก็บผลผลิตได้สะดวก

    6. โรคของต้นมะหลอด ส่วนเรื่องโรคของต้นไม้พันธุ์นี้ไม่ค่อยมีให้เห็น ทั้งในเรื่อง ใบ ลำต้น แม้กระทั้งผล ปลูกแล้วสบายใจได้เลย

มะหลอดเป็นไม้เถา พอต้นโตสักระยะหนึ่งควรทำค้างให้เลื้อย

ประโยชน์มะหลอด

ผลไม้พื้นบ้าน ที่ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อย

  1. ทางด้านอาหาร
  • ผลดิบ และผลสุก ใช้รับประทานสดคู่กับพริกเกลือ พริกน้ำปลาหวาน หรือ น้ำพริกปลาร้า ก็ได้
  • ผลดิบ และผลสุก ใช้ประกอบอาหาร อาทิ น้ำพริกมะหลอด ยำมะหลอด ส้มตำมะหลอด เป็นต้น หรือ ใช้ประกอบอาหารแทนมะนาวสำหรับทำให้มีรสเปรี้ยว อาทิ ใส่ในต้มยำหรือแกงส้มต่างๆ
  • ใช้แปรรูปเป็นผลไม้ดองเค็ม หรือ แช่อิ่ม ผลไม้กวน แยมมะหลอด เยลลี่มะหลอด และไวน์มะหลอด เป็นต้น
  1. ทางด้านสมุนไพร และยารักษาโรค เช่น รับประทานแก้ท้องผูก ช่วยให้ขับถ่ายง่ายขึ้น แก้อาการท้องเสียท้องร่วง เป็นต้น
  2. ทางด้านการใช้สอยในครัวเรือน กิ่งมะหลอดใช้ทำเครื่องมือใช้สอย อาทิ คันสวิง เป็นต้น
  3. ทางด้านสิ่งแวดล้อม ผลสุกมะหลอดเป็นอาหารสำหรับสัตว์

สารสำคัญที่พบ [3] อ้างถึงใน Ayaz and Bertoft (2001)

มีการศึกษาในผลมะหลอด พบสารอัลคาลอยด์ (alkaloid) และพอลีฟีนอล (polyphenols) หลายชนิด ได้แก่

  • epicatechin
  • epigallocatechin
  • epigal-locatechin gallat
  •  

สรรพคุณมะหลอด ดอก และผล

ผล ได้แก่ ผลดิบมีรสฝาด ผลสุกมีรสเปรี้ยวอมหวาน รับประทานได้ทั้งสด และใช้ประกอบอาหาร

  • ช่วยต้านเซลล์มะเร็ง ช่วยต้านการลุกลามของเซลล์เนื้องอก
  • ช่วยต้านอนุมูลอิสระ
  •  ช่วยลดปริมาณคอลเรสเตอรอลในเส้นเลือด
  •  ป้องกันการเกิดโรคในระบบหลอดเลือด หัวใจ และสมอง
  • แก้โรคบิด
  •  แก้อาการท้องผูก
  • ช่วยบำรุงหัวใจ แก้อาการใจสั่น
  •  ช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยคุมธาตุในร่างกาย
  • แก้โรคตา
  •  แก้อาการคลื่นเหียนอาเจียน
  •  แก้อาการปวดศีรษะ
  • ช่วยบรรเทาอาการไข้
  •  ช่วยขับเสมหะ
  • แก้อาการบวมริดสีดวง
  • ช่วยเป็นยาสมานแผล

ใบ

  • นำใบมะหลอดมาต้มกับเกลือ น้ำต้มที่ได้มีรสเฝื่อน ใช้อมบ้วนภายในปาก ช่วยแก้อาการปวดฟัน อาการแผลในช่องปาก และรักษาโรคเหงือกอักเสบ
  • ใบอ่อนใช้รับประทานหรือต้มน้ำดื่ม ช่วยในการบำรุงผิว
  • ใบอ่อนต้มน้ำดื่ม ช่วยเป็นยาขับปัสสาวะ

เนื้อเมล็ด

  • นำเมล็ดมาผ่า แล้วแคะแยกเอาเฉพาะเนื้อเมล็ด ก่อนนำมาต้มรวมกับเหง้ากับสับประรด และสารส้ม น้ำต้มที่ได้นำมาดื่มช่วยแก้โรคนิ่ว

ราก

  • ขุดรากบางส่วนจากต้น แล้วนำมาล้างน้ำ ก่อนสับเป็นชิ้นแช่ด้วยเหล้า 3-5 วัน ใช้ดื่มเพื่อแก้อาการปวดข้อปวดกระดูก โดยเฉพาะบริเวณหัวเข่า

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://siamroommate.com/มะหลอด